ถุงมือยางของเด็กชายดลและเครื่องช็อตไฟฟ้าของเด็กชายเจมส์

ถุงมือยางของเด็กชายดลและเครื่องช็อตไฟฟ้าของเด็กชายเจมส์





1

ผมชื่อเจมส์อายุ 15 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และผมพกเครื่องช็อตไฟฟ้าไว้ในกล่องดินสอ

กลิ่นเลือดคละคลุ้งไปทั่ว สีแดงของเลือดไหลซึมเป็นทางยาวบนพื้นกระเบื้องสีขาว ผมกำเครื่องช็อตไฟฟ้าในมือไว้แน่น ภาพตรงหน้าคือดลเพื่อนในห้องของผมเอง เราไม่สนิทกันเลยจนเมื่อปีที่ผ่านมาพวกเราโดนย้ายที่นั่งมาข้างๆกันเลยรู้จักกันโดยปริยาย ดลกำลังหั่นชิ้นเนื้อของหญิงสาวเพื่อนร่วมชั้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพลางฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์

พวกเราอยู่ในห้องนั่งเล่นของบ้านเดี่ยวแห่งหนึ่งที่ตกแต่งอย่างอบอุ่น ห้องโถงยาวถูกแบ่งสัดส่วนเป็นครัวและห้องนั่งเล่น กำลังหั่นแขนทั้งสองข้างของหญิงสาวใส่ลงถุงดำอย่างใจเย็นบริเวณที่ดูทีวี

“มึงอยากลองกินเนื้อคนดูมั้ย”
“หุบปาก”

ถ้าคุณเชื่อเรื่องดวงชะตา สีนำโชคหรือห้ามตัดผมวันพุธ ก้าวขาซ้ายออกจากบ้านแล้วจะโชคดี คุณก็ควรเชื่อเรื่องร่างเรียกโชคร้ายของผมเช่นกัน คุณแม่บอกผมเสมอว่าถ้าอายุครบ 15 ปีให้ระวังตัวเอาไว้เพราะว่าผมนั้นมีร่างเรียกโชคร้ายอยู่ ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อหรอกแต่พอครบ 15 ปีบริบูรณ์ก็เกิดไฟไหม้บ้านจนครอบครัวเสียชีวิตทั้งหมด มีเพียงผมที่รอดมาได้ ผมเลยเชื่อตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

โดยปกติแล้วผมจะดึงดูดเรื่องอันตรายต่อตนเองบ้างต่อผู้อื่นบ้าง มีตั้งแต่เหตุการณ์เบาๆอย่างกระดาษบาดมือไปจนถึงรถชน(หรือไฟไหม้ที่กล่าวไปข้างต้น) แต่ส่วนมากจะเป็นผมที่มักจะเป็นเหยื่อล่อตาล่อใจของเหล่าฆาตกรเสียมากกว่า เรื่องโชคร้ายมักเกิดขึ้นโดยมีผมเป็นศูนย์กลางทั้งหมด ผมจึงเพื่อนน้อยเพราะไม่อยากให้ใครมารับลูกหลง

ดลเป็นฆาตกรโรคจิต

ดลนั้นชอบฆ่าคนแล้วก็เก็บชิ้นส่วนของมนุษย์เอาไว้ เนื่องจากอายุแค่ 15 การทำอะไรประเจิดประเจ้อจึงทำได้ยาก หมอนั้นเคยบอกว่า ตามฆ่าคนที่มายุ่งกับนายง่ายกว่าตั้งเยอะก็เลยเป็นเหตุผลที่หมอนี่ชอบมาวนเวียนอยู่รอบๆคล้ายๆแร้งที่รอกินศพ ไม่รู้ว่ากินจริงๆรึเปล่านะ แต่ผมไม่เอาด้วยหรอก

“มึงกลับไปก่อนก็ได้ เจอกันที่โรงเรียนพรุ่งนี้”
“แล้วพลอยจะทำไง”
“พลอยไหน”
“ก็นั้นไง”

ผมชี้ไปที่ศพหญิงสาว ดลหัวเราะแหะๆ ท่าทางจะจำชื่อเพื่อนในห้องไม่ได้

ย้อนไปตอนช่วงเย็น พลอยเรียกผมมาที่บ้านอ้างว่าจะให้ช่วยติวหนังสือ ผมก็ตามน้ำมาด้วยแม้ว่าเกรดเฉลี่ยจะอยู่แค่ 2.54 พอเธอเสิร์ฟน้ำที่คาดว่าน่าจะมียานอนหลับ แต่ไม่ทันได้กล่าวคำอำลาตื่นมาอีกทีก็พบว่าร่างกายอันสวยงามของพลอยกลายเป็นศพไปเสียแล้ว ผมคิดว่าผมคงถูกจับมัดเอาไว้แล้วดลคงมาคลายเชือกให้ตอนที่ผมเองก็ยังไม่ได้สติ ที่รู้ว่าถูกมัดเพราะมีรอยเชือกรอบๆมือชัดเจน

“วันนี้คงต้องเก็บกวาดทั้งคืน”

ดลว่าพลางฮัมเพลงต่อเนื่องอย่างสบายใจ โชคดีที่พ่อแม่ของพลอยไปต่างจังหวัดที่บ้านเลยไม่มีใครอยู่ ตอนนี้เวลาประมาณ 4 ทุ่ม ผมยังไม่ง่วงเพราะเพิ่งตื่นได้ไม่นาน อาจจะมึนจากฤทธิ์ของยานอนหลับก็ดีอยากดูความเรียบร้อยของศพก็ดี ผมเลยยังไม่กลับบ้าน

“ถ้าไม่ช่วยก็หาอะไรมาให้กินหน่อย”
“ฝันหรอ”
“นะ นะ นะ”

รำคาญ

อยากเดินเอาเครื่องช็อตไฟฟ้าไปช๊อตมันให้สลบๆไป แต่เคยทำไปครั้งนึงแล้วพบว่าไม่มีคนเก็บกวาดศพต่อ ครั่นจะเก็บเองก็ไม่อยากทำ มันน่ากลัวเกินไป ผมคิดพลางมองดลกำลังชำแหละอวัยวะภายในใส่ถุงดำแยกอีกใบหนึ่ง เกลียดมันชะมัด

พอเห็นว่าท่าทางคืนนี้จะอีกยาวและท้องก็เริ่มหิว ผมเลยเดินไปหาของสดมาทำครัว ในตู้เย็นบ้านพลอยมีเนื้อหมู ใบกะเพรา แล้วก็ไข่ เมนูที่พอเป็นได้เลยจบลงที่กระเพราไข่ดาว นอกจากของสดแล้วในตู้เย็นก็มีแกงพะแนงด้วย เลยเอามาอุ่นเพื่อทานด้วยกัน ส่วนข้าวต้องรอหุงก่อน

เราสองคนนั่งแยกกิจกรรมกันทำ ผมยืนหั่นเนื้อหมู ดลนั่งหั่นเนื้อศพ ผมเด็ดใบกะเพราะ ดลเลาะฟันทีละซี่(เห็นว่าป้องกันการตรวจสอบจากพิมพ์ฟัน) พอเทแกงใส่ถ้วย ดลก็รีดเลือดออกจากศพเสร็จพอดี ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาทีในการทำครัวและในการชำแหละร่างไร้วิญญาณส่วนที่เหลือ

ปิ้ป

เสียงดังขึ้นจากหมอข้าวหุง ผมจัดจานอาหารบนโต๊ะ มีกะเพรา ไข่ดาว พะแนง แล้วผมก็ผัดผักง่ายๆจากของเหลือในตู้เย็น มองไปที่คนข้างๆกำลังปิดปากถุงดำอย่างยากลำบาก

“มีส่วนของกูมั้ย”
“ไม่มี”
“แต่กูจะแดก”
“ไม่ให้กิน”

ดลยิ้มหวานแล้วเดินไปหยิบจานเปล่า คดข้าวมานั่งด้วยอย่างถือวิสาสะ นี่ไม่ใช่การร่วมโต๊ะกันครั้งแรก ถึงอย่างนั้นก็ไม่สบายใจที่จะร่วมโต๊ะกับฆาตกรโรคจิตที่มีนิสัยชอบเก็บเล็บของเหยื่อ

“กะเพราน่าอร่อยวะ”

ผมเอื้อมไปหยิบเครื่องช็อตไฟฟ้ามาวางไว้ใกล้ๆตัว ส่วนหมอนั้นก็ถอดถุงมือยางแล้วโยนลงไปที่พื้นอย่างไม้แยแส  



2

เช้าวันถัดมาพลอยไม่มาเรียน ก็แน่ล่ะเพราะว่าเป็นศพไปแล้ว ส่วนดลไม่มาคาบโฮมรูมโผล่มาอีกทีก็ตอนคาบ 2

เมื่อวานหลังจากกินข้าวเห็นว่าดลจัดการกับศพเรียบร้อยดี ก็หนีกลับมาบ้านก่อน ปกติผมไม่รู้หรอกว่าหมอนั้นเอาศพไปไว้ที่ไหนหรือจัดการยังไง แค่เห็นว่าทุกส่วนถูกยัดลงถุงแล้วก็ถือว่าประสบความสำเร็จ

“ได้เข้าไปในห้องพลอยมั้ย”

ดลเขียนไว้บนสมุดปกแข็งของผมตอนที่ครูกำลังสอนภาษาไทยเรื่องรามเกียรติ  

“ไม่ได้เข้า อยู่แต่ที่ห้องนั่งเล่น”

ผมเขียนตอบ

“ในห้องมีรูปมึงอยู่เต็มเลย พวกขวดน้ำที่มึงเคยดื่มก็ด้วยแล้วก็อีกเยอะ มีชุดมึงด้วยนะ”

เพราะประโยคมันยาว ดลเลยนั่งขยุกขยิกอยู่ข้างๆผมอยู่นานสองนาน ดลเป็นผู้ชายตัวสูง ภายนอกดูไม่มีพิษภัย เป็นที่รักของเพื่อนๆทุกคน แต่ภายใต้ใบหน้าใสซื่อและรอยยิ้มพิมพ์ใจ ข้างในคือฆาตกรที่ดับผมหายใจคนมาแล้วนับสิบ แม้จะยังไม่ใช่ผู้ใหญ่แต่ก็มีแรงมาก หมอนั้นเคยบอกว่าถ้าตัดเส้นเลือดถูกวิธีก็ไม่จำเป็นต้องใช้แรงอะไรมากมายเลย

“ธนาดล! จักรริน!

อาจารย์ตะโกนดังลั่นตอนที่เห็นผมดับดลนั่งเขียนอะไรในสมุดกันสองคน คนในห้องหันขวับมามองแล้วก็หัวเราะใหญ่ ผมก็ได้แต่ยิ้มแก้เขินส่วนคนข้างๆหัวเราะชอบใจอย่างมีความสุข

พอหมดคาบมันก็เล่าให้ฟังว่าพลอยน่าจะเป็นสโตรกเกอร์ที่แอบชอบผมมานานแล้ว ถ้าให้เดาน่าจะตั้งแต่อายุผมย่างก้าวเข้า 15 ละมั้ง ในห้องนอนของพลอยมีพวกข้าวของเครื่องใช้ที่ผมทิ้งไปแล้ว พวกแปรงสีฟัน ชุดพละ รองเท้า ทิชชู่ แล้วก็รูปแอบถ่ายอีกนับไม่ถ้วน คาดว่าเมื่อวานน่าจะเป็นวันที่พลอยอยากได้ทั้งร่างกายของผมเอาไปเก็บไว้

“เกือบแย่แล้วมั้ยล่ะมึง”
“แย่ พ่อง”
“พูดดีๆ นี่ฮีโร่ขี่ม้าขาวนะเว่ย”

ก็แค่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก

ดลพูดพลางตบหัวผม ไม่ชอบนิสัยแบบนี้ของมันเลย ทำร้ายร่างกายโดยไม่จำเป็น ผมปัดมือมันออกแต่มันก็ยังเอามือมาขยี้หัวผมเล่น ผมก็ปัดออกอีก มันก็ไม่สนใจ เอาแต่หัวเราะฮิฮิ

“รำคาญ”

พยายามจะปรามอีกฝ่ายแต่ก็ไม่เป็นผลดี ดลไม่ฟังอะไรที่ผมพูดเท่าไหร่ทำให้ผมต้องล้วงไปในกางเกงจับเครื่องช็อตไฟฟ้าไว้แน่น

“โว๊ะ แค่นี้ถึงกับจะช็อตกูเลย”

ดลเห็นผมล้วงกระเป๋าก็เดาได้แทบจะทันทีว่าในมือของผมถืออะไร ผมใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าเป็นอาวุธป้องกันตัว มันเคยโดนผมช็อตไปสองที แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมาวนเวียนด้วยตลอดเวลา ก็พอจะรู้ว่าสำหรับมันแล้วนี่ก็เหมือนเครื่องมือหลอกเด็ก ถ้ามันจะฆ่าผมก็สามารถทำได้โดยง่าย แค่ตัดเส้นเลือดใหญ่ตรงคอ ผมก็คงลงไปชักดิ้นชักงอเลือดไหลกกปาก

แต่มันก็ไม่ทำ

น่าจะเป็นเพราะว่าการติดตามผมที่เหมือนเหยื่อชั้นดีทำให้มันสามารถหากินได้สะดวกมากกว่า พอหมดพักสิบนาที ครูก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมสอนคาบต่อไป คาบนี้เป็นวิชาสังคมซึ่งโดยปกติพอคาบสังคมดลมันจะนอนตลอดทั้งคาบ พอทำความเคารพเสร็จดลก็ฝุบลงกับโต๊ะทันที ผมเหลือบไปเห็นภาพวาดในสมุดของดล เป็นภาพวาดเล่นแบบเด็กๆ มีคนตัวก้างปลานอนอยู่ที่พื้น ปากกาแดงระบายแทนเลือด ปากกาขีดฆ่าที่คอของมนุษย์ก้างปลา ผมเดาว่าก้างปลาพวกนั้นคือศพ ทั้งหมดเรียงรายประมาณ 5-6 ร่าง มีตัวก้างปลาตัวนึงยืนอยู่ท่ามกลางศพพวกนั้น บนหัวมีวงแหวนนางฟ้า ในมือถืออะไรสักอย่างที่มีสัญลักษณ์ไฟฟ้าออกมาจากมือ


3


เลือดไหลออกมาเป็นสีแดงฉานคล้ายน้ำพุ รอยตัดตรงคอเป็นเส้นยาวเรียบจากของมีคม เลือดทะลักกระจายไปที่ผนังสีขาว ร่างตรงหน้ากระตุกก่อนจะล้มลงกับพื้น ร่างกายย้วยยานราวกับสายยางที่เปิดแรงน้ำไว้แรงสุด สั่นๆสักพักก่อนจะปล่อยให้เลือดไหลคงที่เมื่อมันสงบลง

ใบหน้าคมแววตาแน่นิ่งแต่มุมปากยกยิ้มอย่างพอใจ
โลหิตสีแดงเปรอะเปื้อนชุดนักเรียนครึ่งนึง ถุงเท้าของดลน่าจะซึมไปด้วยเลือดที่พื้นจนเปียกชุ่ม คราวนี้ดลใช้มีดทำครัวในการปลิดชีพอีกฝ่าย อาจารย์วิชาสังคมที่เราเพิ่งเรียนกันไปเมื่อตอนเช้านอนแน่นิ่งไม่ไหวติง

“มึงนี่มีเรื่องได้ไม่เว้นแต่ละวัน”
“เสือก”

ผมนอนอยู่บนเตียงที่ไม่คุ้นตา ที่นี่น่าจะเป็นบ้านของครูชัย ครูสอนวิชาสังคมศาสตร์ ผมจำได้ว่าไปช่วยครูยกสมุดไปที่ห้องพักครูตอนเย็น รู้ตัวอีกทีก็โผล่มาที่บนเตียงมือถูกมัดกับหัวเตียง ตอนผมตื่นขึ้นมากระดุมชุดนักเรียนถูกปลดและคนที่ขึ้นชื่อว่าครูกำลังดมเท้าของผมอยู่

“มาไม่ทันมึงเสร็จไอ้แก่นี่ไปแล้ว”
“เอาเชือกออก”
“สั่งกูหรอ”
“เออ”

สภาพตอนนี้ผมเองก็ยังไม่ได้เป็นอิสระ มือถูกขึงไว้ ชุดนักเรียนหลุดลุ่ย เข็ดขัดก็หายไปไหนไม่รู้

ดลปีนขึ้นมาบนเตียงแล้วนอนข้างๆผม พลางหยิบมือถือขึ้นมากดเล่น

“ดีจัง ไม่ต้องส่งการบ้านวิชาสังคมแล้ว”

มันพูดพลางเข้าเกมส์เล่นอย่างสบายใจ ผมก็เหนื่อยเกินกว่าจะมาสั่งมันเลยนอนดูมันเล่นเกมส์ข้างๆอย่างช่วยไม่ได้ ดลมีกลิ่นตัวสะอาดและพรมน้ำหอมที่ได้กลิ่นก็รู้ว่านี่คือดล แต่ตอนนี้กลิ่นคาวเลือดออกจะกลบกลิ่นน้ำหมพวกนั้นซะมิด

ทุกครั้งที่หมอนี่โผล่มาจะมีคนตาย หลายครั้งที่ผมเป็นพยานในเหตุการณ์ การปรากฏตัวของมัจจุราชวัย 15 ปีนั้นน่ากลัวและสยดสยอง ดลจะฆ่าเหยื่อโดยสีหน้าไม่เปลี่ยนเลยแม้แต่นิดเดียว พอลงมือฆ่าเสร็จจะยกยิ้มเล็กน้อย แล้วก็จะฮัมเพลงตอนที่ชำแหละเหยื่อเป็นชิ้นๆ หมอนั้นทำแบบนั้นทุกครั้ง

ทุกครั้งที่หมอนั้นโผล่มาแม้ผมจะกลัวแต่ในใจนึงก็กลับรู้สึกปลอดภัย ถ้ามันไม่มาผมคงถูกครูชัยข่มขืนแล้วก็ฆ่าหมกไว้ที่สวนของเขาก็ได้ หรืออาจจะถูกพลอยเพื่อนร่วมชั้นกักขังเหมือนสัตว์เลี้ยงที่บ้านของเธอในชั้นใต้ดิน หรืออาจจะโดนตัดเป็นแขนขาแล้วแชร์ฟอมาลีนไว้ให้พอมีชีวิตตอนที่เจอกับครอบครัวประหลาดมุมตึกสัปดาห์ก่อน

ดลไม่ได้เป็นฮีโร่ม้าขาว ดลเหมือนกับมัจจุราชขี่อาชาสีดำ

“หิวแล้ว”

ดลไม่สนใจคำพูดของผม มันเล่นเกมส์จบก็กอดผมแน่น เสื้อที่เปื้อนเลือดของมันเลยเปื้อนเสื้อของผมไปด้วย เลอะเปรอะเปื้อนไปจนถึงอกด้านใน มันกอดผมในห้องนอนของครูวิชาสังคมและศพเจ้าของห้องก็ยังอยู่ที่พื้น

“ไอ้ควาย เลือดมันเลอะหมดแล้ว”

มันก็ยังคงกอดผมอยู่ดี

“ตัวมึงหอมจัง เพราะงี้คนเลยอยากฆ่ามึงรึเปล่า”
“หอมว่ะ”
“มึงจะฆ่ากูหรอ”
“กูห้ามใจอยู่”

ผมอยากหยิบเครื่องช็อตไฟฟ้ามาช็อตมันสักที บางทีมันก็ชอบเข้ามาคลอเคลียแบบนี้ ท่าทางเหมือนอยากจะฆ่าผมเสียเต็มประดาแต่ก็ไม่ทำเพราะอดเปรี้ยวไว้กินหวาน

ทันใดนั้นผมก็รู้สึกถึงแรงบีบที่คอ

ใบหน้านั้นนิ่งเรียบ สองมือหนากุมที่คอผมแน่น ร่างหนาขึ้นคร่อมผมโดยที่ผมเองก็ไร้ทางสู้ ผมพยายายมออกแรงกระชากมือที่ถูกขึงไว้กับหัวเตียงแต่ก็ไม่เป็นผล แรงบีบค่อยๆเพิ่มมากขึ้นจนผมหายใจไม่ออก ผมพยายาขัดขืนแต่ก็สู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้ น้ำตาอุ่นเริ่มไหลเป็นทาง

ดลเหมือนกับมัจจุราช

ผมไม่เคยถามว่าทำไมมันถึงฆ่าคนราวกับผักปลา ที่รู้ว่ามันชอบสะสมชิ้นส่วนของคนมันก็เป็นคนบอกเองตอนกำลังชำแหละศพ ถ้าให้เดาผมว่าดลคงเคยเจอเหตุการณ์อะไรสักอย่างมันเลยเป็นแบบนี้ ผมเกลียดมัน เกลียดมากๆ เกลียดมากกว่าของเสียของศพที่ไหลออกมาเสียอีก

เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด

ผมพยายามกอบโกยเอาอากาศเข้าปอดให้ได้มากที่สุด

“ปะ.ปล่อย..กู”
“อะ..ไอสัส”

ดลคลายมือออกจากคอของผม

สัมผัสอุ่นๆตรงริมผีปาก

เราแลกเปลี่ยนจูบที่มีกลิ่นเลือดและน้ำลาย

ผมร้องไห้

4

ผมชื่อดล อายุ 15 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ผมพกถุงมือยางแบบกล่องไว้ในกระเป๋าเป้

ผมรักเจมส์

ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนไหนและเมื่อไหร่ที่ผมไม่สามารถละสายตาจากเพื่อนร่วมห้องคนนี้ได้เลย เจมส์มีนัยน์ตาที่สวยงามน่าสะสม เล็บที่ถูกตัดเป็นระเบียบ ผมสีน้ำตาลธรรมชาติเรียงเส้น ผมอยากได้มันทั้งหมด

“เอามือมึงออกไป”

เจมส์ว่าผมทุกครั้งเวลาที่ผมขยี้หัวมัน อยากได้ผม อยากได้เส้นผมของมันหมดเลย ก็เลยเผลอจับแรงไปหน่อย อยากได้ อยากได้

เจมส์บอกเสมอว่ามันมีร่างเรียกโชคร้าย รอบตัวมันเลยมีแต่เรื่องน่ากลัว ทุกคนที่เข้าใกล้มันจะอยากฆ่ามันถ้าไม่ฆ่ามันก็ฆ่าคนรอบตัว ซึ่งผมเลือกที่จะวนเวียนอยู่รอบๆมันเพื่อที่จะคอยจัดการกับพวกที่เข้ามายุ่มย่าม

โชคดีที่เพื่อนร่วมห้องคนนึงที่พยายามจะลักพาตัวเจมส์มีหูที่คล้ายกับเจมส์ ผมเลยเอาส่วนหูของเธอเก็บเอาไว้แล้วแช่ไว้ในตู้เย็นกับอวัยวะอื่นๆ นอกจากนั้นผมเก็บเล็บจากศพนึงได้ เล็บพวกนั้นเหมือนเล็บของเจมส์ด้วย ตอนนี้ผมมีมือ เล็บ หู เก็บเอาไว้แล้ว

ผมรักเจมส์

เจมส์เหมือนกับนางฟ้า ท่ามกลางโลกที่โหดร้ายเจมส์คือตาพายุ ทุกอย่างจะอยู่ภายใต้หมอนั้น พระเจ้าที่ควบคุมโชคชะตาด้านลบ เจมส์สวยงาม งดงามราวกับเทพธิดา

รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก

อยากได้ทุกอย่างของเจมส์

เผลอ

เผลอบีบคอเจมส์

ใบหน้าบิดเบี้ยว น้ำลายไหลย้อย ผมยุ่งเหยิง มือถูกรัดแน่นไว้กับหัวเตียง เจมส์สวยงามแม้จะถูกพันธนาการ

นึกขึ้นได้ว่าคนตรงหน้าคือเทพธิดา ผมก็เลยมอบจุมพิตจากสามัญชน

ผมรักเจมส์

เขาจะต้องปลอดภัย เขาจะอยู่ในอ้อมกอดของผม เราจะอยู่ด้วยกันไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ผมจะปกป้องเจมส์ เขาจะต้องถูกผมปกป้อง ผมรักเขา ผมอยากทานข้าวกับเขาอีก ผมอยากไปเที่ยวด้วยจัง

ผมแลกจูบที่ดูดดื่มกับเขา จูบแล้วจูบเล่า เจมส์จูบผมตอบ

ผมมีความรักกับเทพธิดา

“รักนะครับ”
“ไอ้ควาย”

เจมส์รับรักผมด้วยคำหยาบคาย ผมรักเขาเหลือเกิน

ถ้าเจมส์คือร่างเรียกโชคร้าย ผมก็ขอจะทึกทักเอาเองว่าผมเป็นข้อยกเว้นผมคือโชคดีที่สุดในชีวิตของเขา เราได้มาเจอกัน ผมรู้ว่าเจมส์เองก็รักผมไม่ใช่น้อย ทุกครั้งที่ผมมาช่วยเขาเจมส์จะแสดงออกทางแววตาว่ามีความสุข เขาอยากเจอผมทุกครั้งเวลาที่เกิดเรื่อง ผมก็จะโผล่ไปหาเขาทุกครั้ง

ยิ่งผมฆ่าคนมากเท่าไหร่ เจมส์ก็ยิ่งผูกพันกับผมมากเท่านั้น

เราผูกพันกันด้วยสายใยที่ลึกซึ้ง ไม่ว่าอะไรก็ไม่สามารถตัดสายใยนี้ขาด เจมส์ขาดผมไม่ได้ ผมก็ขาดเจมส์ไม่ได้ ยิ่งเราถล้ำลึกมากเท่าไหร่ความรักของพวกเราก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น

ผมรักเจมส์

------------------  

#ดลเจมส์สิบหน้า 

อยากลองเขียนอะไรที่แตกต่างจากเดิมดูค่ะ 
ยังไงก็ฝากติชมนะคะ 



ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม